ตอนนี้หลายๆ บริษัทเริ่มหันมาเปลี่ยนแปลงการทำงานโดยใช้ BIM มากขึ้น จะโดยทั้งที่เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็แล้วแต่ ซึ่งจะต้องลงทุนอย่างมากทั้ง ทรัพยากร Hardware, Software และเวลาและค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับการพัฒนาบุคลากรให้สามารถทำงานได้คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งแม้จะมีครบทั้งสามอย่างแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือกระบวนการทำงานที่จะต้องเปลี่ยนไปไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน ขอยกตัวอย่างสถานะการตอนนี้ให้ดูกันครับ
บริษัท A ได้ลงทุน
คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงใช้สองจอในการทำงาน จำนวนสองชุด ประมาณ 160,000 บาท
ซื้อโปรแกรมลิขสิทธ์แท้สองชุด อีก 600,000 บาท
ส่งคนไปอบรม สองคนระดับเบื่องต้น 30,000 บาท
รวมๆ แล้วก็ประมาณ 800,000 บาท หลังจากนั้นก็ไปรับงานมาแล้วลองผิดลองถูกจนพนักงานสามารถใช้โปรแกรมได้คล่อง ก็อย่างน้อยน่าจะประมาณ 4 เดือน
แต่ พนักงานส่วนใหญ่ใน บริษัท A ยังทำงานเหมือนเดิมคือ ไม่มีการวางแผนก่อนทำงาน ไม่กำหนดระดับอุปกรณ์ในพื้นที่เหนือฝ้า ไม่มีการประสานงานกันในขณะทำงาน ทำไปก่อนแล้วแก้ทีหลัง ซึ่งทำให้ใช้ชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้นเป็นสามสี่เท่าของการทำงาน แล้วคุณภาพก็ออกมาไม่ดี สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จต้องกลับมาใช้ CAD เหมือนเดิมเพื่อให้ส่งงานทัน กลายเป็นเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีก
ผู้บริหารจะต้องคำนึงถึงข้อนี้ด้วยว่าต้องสร้างจิตสำนึกให้พนักงานทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงานให้ปรับวิธีคิดในการทำงานให้สอดคล้องกันเริ่มต้นด้วยวัตถุประสงค์ในการทำ BIM เพื่ออะไร Project manager ต้องเข้าใจวิธีการทำงานโดยโดยรวม เครื่องมือและโปรแกรมต่างๆ LOD ที่กำหนด ผู้ออกแบบต้องเรียนรู้การใช้โปรแกรมสำหรับตรวจสอบ Model ว่าที่ออกแบบไว้นั้นติดตั้งได้หรือไม่ พนักงานเขียนแบบต้องประสานงานกันมากขึ้นกว่าเดิม ฯลฯ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันงานถึงจะออกมาดีครับ
การลงทุนมีความเสียง ควรศึกษาก่อนลงทุน เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ