BIM Software and Add-in Works Flow

BIM เป็นกระบวนการในการทำงานซึ่งเมื่อเรานำมาช่วยในการทำงาน ใครที่ทำงานด้านก่อสร้าง คงพอจะทราบกันดีว่าจะต้องใช้ Software มาใช้ในการทำงานในระบบ BIM จะต้องมีมากกว่า 1 ตัวแน่นอนโดยส่วนใหญ่ที่เห็นๆ กันก็คงจะมี Autodesk Revit หรือ ArchiCAD เพื่อในการขึ้น 3D Model และ Navisworks เพื่อช่วยตรวจสอบ Model รวมไปถึงการ Export เพื่อให้ได้ไฟล์  DWG โดยใช้โปรแกรม Autocad ในการเปิดใช้งาน 

โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำงานเราควรจะต้องใช้เครื่องมือให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำงาน รวมไปถึงให้ได้มาข้อมูลที่ถูกต้อง ก็มีหลายวิธีที่จะได้เครื่องมือต่างๆ มาช่วยทำงานเช่น การเขียน Dynamo , Marco ซึ่งจะต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้มากพอสมควร (อันนี้ใครทำได้ก็คงเป็นเพราะได้พรอันประเสริฐจากพระเจ้า ส่วนผมคงไม่ไหว ทำได้แค่แอบขอยื้มของคนอื่นมาใช้ได้ก็บุญแล้ว) การหา Add-in ที่มีแจกฟรีใน Autodesk App Store หรือถ้าใครรวยหน่อยก็ใช้เงินแก้ปัญหาโดยการซื้อ Add-in ต่างๆ มาช่วยก็ยังได้ รวมไปถึงการใช้คำสั่งของ MS DOS ก็ยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับขั้นตอนการทำงาน BIM ได้ด้วย (อันพูดไปแล้วคงไม่ค่อยมีใครเชื่อ)

ภาพด้านบนเป็นการอธิบายขั้นตอนและ Software ที่ผมนำมาใช้กับหลาย Project ที่ทำงานอยู่โดยขออธิบายตามลำดับหมายเลขดังนี้

1. การใช้ Revit บน BIM360 อันนี้หลายคนคงจะใช้กันอยู่

2. ใช้ RTV Tools สำหรับ Export ไฟล์ออกมาใช้งาน หรือตามรอบการส่งงานตาม BEP กำหนด โดยส่วนใหญ่ผมจะตั้งเวลาโปรแกรมทุกวันตอนกลางคืนให้ Export ไฟล์ PDF และ NWC เพื่อจะได้ข้อมูลอัพเดทมาใช้ในตอนเช้า โดยกำหนด ตำแหน่งเก็บไฟล์ไว้แยกกันเป็นระบบ อันนี้สะดวกมาก

3. ใช้ Remote Desktop Connector ของโปรแกรม Windows ในกรณีที่ต้องการ Export ไฟล์อย่างเร็งด่วนโดยการ Remote ไปใช้หลายๆ เครื่องในการช่วย Export ไฟล์ หรือสำหรับใช้ในการแก้ Clash

4. เมื่อได้ไฟล์ Export จาก RTV Tools ในหัวข้อ 2 แล้วก็ตั้งเวลาให้ MS DOS ให้ Run คำสั่งในการก๊อปปี้้ข้อมูลไปไว้ที่ Folder ที่ทำงานทั้งของ PDF เพื่อให้เอ็นจิเนียร์นำไปใช้และ NWC เพื่อตรวจสอบ Model

5. ใน Working Folder ก็ใช้เก็บไฟล์ PDF โดยทางเอ็นจิเนียร์จะเอาไปตรวจสอบความก้าวหน้าของงานและนำไป Markup เพิ่มโดยใช้โปรแกรม Bluebeam ส่วน Navisworks จะนำไปทำการตรวจสอบ Clash Detection ซึ่งจะถูกอัพเดททุกวันโดยอัตโนมัติ

6. เป็นเครื่องมือต่างๆ ที่ผมใช้งานบ่อยๆ โดยบางอันจะใช้เฉพาะตอนเริ่ม Project ส่วนบางอันจะถูกใช้ตลอดเวลา ตามแต่ละจุดประสงค์ เช่น Rush Forth จะใช้เมื่อต้องการสร้าง Project และสร้าง View, Sheet ใช้ BIM Link ในการนำข้อมูลออกมาเป็น Excel 

โดยสรุปแล้วผมแนะนำให้ลองหาดูว่ามีขั้นตอนใหนในการทำงานที่จะสามารถประหยัดเวลา และการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอาจจะต้องแสดงหาเครื่องมือต่างๆ ซึ่งจะมีทั้ง ฟรีและเสียเงินซื้อมาซึ่งจะต้องคำนวณดูว่าคุ้มกับราคาที่จ่ายไปหรือเปล่า ส่วนตัวผมเองแล้วคิดว่าลำพังการใช้งานเฉพาะโปรแกรม Revit คงจะไม่เพียงพอเสียแล้ว ส่วนใครมีเครื่องมืออะไรดีๆ อยากจะแนะนำก็บอกได้เลยนะครับเพื่อแลกเปลียนความรู้กัน

Revit Addin RTV Tools Pro

เคยแนะนำ Addin ตัวนี้เมื่อนานมาแล้วแต่วันนี้ขออธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดประโยชน์ของ Addin ตัวนี้ครับ

โดย Addin ตัวนี้ใช้ได้ตั้งแต่ Revit เวอร์ชั่น 2017 ถึง 2020 ของ 2021 กำลังจะมาในไม่ช้า ซึ่งตัวโปร ราคา 49$ สำหรับ 1 License ต่อ 1 ปี (ตกราวๆ 1500 - 2000 ถือว่าคุ้มมากแลกกับเวลาที่ได้คืนมา) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากลิงค์นี้เลยครับ https://www.rtvtools.com/rtv-xporter-pro/ โดยประโยชน์ที่จะได้รับคือ

1. สามารถ Export ไฟล์ตระกูลต่างๆ ได้พร้อมๆ กัน เช่นสามารถทำ PDF, DWG และ NWC ได้เลยโดยการเลือกครั้งเดียวและสามารถเก็บการตั้งค่าไว้เพื่อจะนำมาใช้ในภายหลังได้อีกด้วยโดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าใหม่ โดยการเลือก Sheet และ View สามารถใช้ Filter ในการกรองข้อมูลเพื่อเลือกเฉพาะเจาะจงได้ เช่นสามารถเลือก Sheet ที่ขึ้นต้นด้วย EL หรือเลือกชื่อมุมมองที่มีคำว่า Export หรือ NWC ก็สามารถทำได้

ไฟล์ที่ทางสามารถทำการ Export ได้จาก RTV tools

2. จากการตั้งค่าในข้อ 1 เราสามารถนำค่าที่ตั้งไว้แล้วกำหนดเวลาล่วงหน้าเพื่อให้ Addin ทำงานให้เราโดยมันจะเปิดไฟล์ให้เราแล้วทำการ Export ค่าที่ตั้งไว้ (แต่ต้องเปิดเครื่องไว้) เช่นสามารถให้ทำ PDF และ NWC ออกมาตอนหลังเลิกงานแล้วตอนเช้าเราก็นำมาตรวจได้โดยไม่ต้องเสียเวลารอ ซึ่งจากการทดสอบสามารถทำงานได้ดีกับทั้งไฟล์ที่อยู่ในเครื่อง ใน Server และบน BIM360 ก็ได้ แต่ยังไม่เคยลองทำงานกับ ProjectWise

อันนี้เล่าให้ฟัง ผมเคยทำงานโครงขนาดใหญ่มี ประมาณ 20 อาคาร ผมได้ตั้งให้ทำการ Export เป็น PDF และ NWC โดยตั้งให้ RTV เปิดไฟล์และทำการ Export ทุกอาคารโดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาในการเปิดไฟล์และจำนวน Sheet และ View ที่จะต้อง Export โดยครั้งแรกอาจจะต้องลองทำการ Export ดูก่อนเพื่อจับเวลาของอาคารนั้นๆ แล้วค่อยมากำหนดระยะเวลาในการทำ Export ในแต่ะละอาคาร โดยกำหนดให้ Export ทุกวันตอนสี่ทุ่ม พอเช้ามาก็มารวบรวมไฟล์เพื่อให้ทางผู้เกี่ยวข้องนำไปใช้งานได้เลย จะเห็นได้ว่าสามารถประหยัดเวลาได้มากเลยโดยไม่ต้องเสียทรัพยากรคน ที่จะต้องมาทำเอง และเราจะได้ข้อมูลที่อัพเดททุกวันตอนเช้า

3. การใส่ Revision อย่างรวดเร็วมาก และสามารถตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโดยปกติการใส่ Revision ใน Revit จะต้องทำเองทีละแผ่นซึ่งเสียเวลามาก ซึ่งตัว RTV สามารถช่วยให้เราสามารถใส่ Revision เป็นชุดๆ ได้เลย ซึ่งสะดวกมาก และง่ายในการตรวจสอบความถูกต้อง

4. การตั้งค่าให้ RTV เปิดไฟล์งานล่วงหน้าให้ (ใครที่ทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่คงจะรู้ว่าเวลาเปิดไฟล์จะช้ามากบางทีอาจจะต้องใช้เกือบครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่า ซึ่งจะสะดวกมากถ้าไฟล์ถูกเปิดก่อนเราเริ่มทำงาน)

5. การอัพเกรดไฟล์ Revit เป็นเวอร์ชั่นใหม่ โดยสามารถทำทีละหลายๆไฟล์ได้

ยังประโยชน์มีอีกหลายอย่างแต่ผมยังไม่ได้ใช้ครับ โดยรวมแล้วถ้าใครที่ต้อง Export ไฟล์บ่อยๆ และต้องทำเป็นประจำต้องการได้ข้อมูลที่อัพเดทตลอดเวลา การใช้ RTV น่าจะช่วยคุณได้แยะมากเลยครับ

Revit การใช้ Analyze ช่วยเช็คขนาดท่อ

เรายังสามารถให้โปรแกรม Revit ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของขนาดท่อที่ได้ทำการ Model ได้ง่ายๆ โดยใช้ คำสั่งในส่วน Analyze > Color Fill > Pipe Legend และเราสามารถกำหนด Diameter เพื่อตรวจสอบขนาดท่อ

Navisworks การตั้งค่า Viewpoints จำค่าการ Hide วัตถุ

ปัญหาอย่างนึงที่หลายคนพบคือเมื่อกำหนด Hide วัตถุที่ View แล้ว แต่เมื่อไปเปิด View อื่นแล้วทำการ Unhide จะทำให้ View ที่เราได้ทำการตั้งค่า Hide ไว้กลับแสดงขึ้นมา ซึ่งในกรณีนี้เราต้องตั้งค่าให้ View ของเราจดจำค่าการ Hide ซึ่งสามารถทำได้โดย

1. คลิกขวาที่ View ที่ต้องการตั้งค่า

2. กด Edit

3. คลิกเลือก Hide/Required ทำงาน

4. กด OK

หลังจากตั้งค่าแล้ว Viewpoint ที่ได้ทำการตั้งค่าจะจดจำค่าการ Hide วัตถุตลอดเวลา 

Revit สร้างตารางเพื่อใส่ข้อมูล

การสร้างตารางเพื่อใส่ข้อมูลเองใน Revit นั้นสามารถทำได้โดยใช้ schedule มีวิธีดังนี้

1. เลือกคำสั่ง View > Create > Schedules > Schedule/Quantities

2. ที่หน้า New Schedule เลือก Category : Detail Items และเลือก Schedule keys แล้วกด OK

3. ที่หน้า Schedule Properties กดปุ่ม New Parameter

4. ตั้งค่าในช่อง Parameter Data ตามด้านล่าง เมื่อเสร็จแล้วกด OK

ใส่ชื่อหัวข้อ Name :  TYPE OF PIPE

Type of Parameter : Text

Group parameter under : Text

5.ทำตามข้อ 3 และ 4 เพื่อเพิ่มหัวข้ออื่นให้ครบ แล้วกด OK

6.ที่ตาราง Detail Item ที่สร้างมา เราสามารถเพิ่มบรรทัดของตารางได้โดย กดที่ Insert Data Row

7.พิมพ์ข้อมูลให้ครบ แล้วดึงเข้า Sheet ได้เลย

Revit Add in - Rush Forth สุดยอด Add in

Rush Forth เป็น Add in ซึ่งถือได้ว่าคุ้มค่าในการลงทุนสุดๆ โดยตัวมันเองสามารถช่วยลดเวลาในการทำงานได้แยะมากๆ โดยมีคนที่เคยได้ใช้แล้ว บอกว่าไม่สามารถทำ Revit ได้เลยถ้าไม่มี Add in ตัวนี้ (โดยจากประสปการณ์ของผม ก็จริงดังที่มีคนกล่าวไว้) ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถไปดาว์นโหลดมาทดลองใช้ได้ 30 วัน จาก apps.autodesk.com และถ้าลองแล้วสนใจซื้อก็ราคา USD 99.99 ประมาณ 3000 บาท ต่อหนึ่งเวอร์ชั่น คือมันสามารถใช้ได้กับเฉพาะเวอร์ชั่นที่ตรงกับ Revit ที่เราใช้งาน ถ้าต้องใช้กับ Revit มากกว่าหนึ่งเวอร์ชั่นก็ต้องซื้อเพิ่ม 

ผมได้ทำ VDO Clip เพื่อแสดงวิธีการใช้งานเบื่องต้นสำหรับผู้สนใจในบางหัวข้อไว้แล้วลองดูที่ ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ

มาพูดถึงประโยชน์ของ Rush Forth

1. Project Setup 

    - สร้าง View และ Sheets โดยสร้างจาก Excel ไฟล์แล้วดึงเข้ามาได้ (ประหยัดเวลามากประหยัดเวลาสุดๆ)

    - การนำ View เข้า Sheet โดยอัตโนมัติ โดยสามารถตั่งค่าตำแหน่งการวางให้ตรงกันทุกแผ่นได้

    - Copy วัตถุและค่าต่างๆ จาก Link model ได้ เช่น Scope Boxes, Match lines, True north, Title Blocks

    - การสร้าง Dependent Views ได้ และสามารถกำหนด Scope boxes ให้กับ View นั้นๆ ได้เลย

    - สร้าง Space และ Room จากไฟล์ลิงค์

        VDO - Project Setup Part I

        VDO - Project Setup Part II

        VDO - Project Setup Part III

 

2. Model Manager/Parameter Transformer

    - การใช้ Filter แบบระเอียด ซึ่งจะดีกว่า Filter ของ Revit มาก

    - การนำข้อมูลเข้า-ออกเป็น Excel

    - การทำการ Clash Detection โดยไม่ต้องใช้ Navisworks (จากที่ทดลองมีปัญหาในการใช้งานบ้างนิดหน่อย)

    - การสร้างวัตถุจากเส้น 2D เช่น การวางตำแหน่งอุปกรณ์ การเขียนท่อ โดยนำเส้นมาก CAD ไฟล์ (อันนี้สุดยอดจริงๆ)

        VDO - Filter and Modify

3. Parameter Scheduler

    - การทำงานเกี่ยวกับ Share Parameter โดยถ้าโครงการมีหลายๆ Model และต้องการใช้ Share Parameter เดียวกันสามารถส่งข้อมูลให้กันได้โดย Save เป็น Template ไว้ได้เลย

    - การเปลี่ยนจาก Parameter ให้เป็น Share Parameter

4. Parameter Linker

    - การตั้ง่า Parameter ให้มีค่าตรงกันจาก Model ที่ลิงค์เข้ามา เช่น การทำให้ท่อตำแหน่งในไฟล์ตรงกันกับตำแหน่งในลิงค์ไฟล์ (แนวท่อเมน)

    - การแสดงตำแหน่ง Coordinate บน Tag โดยการอ้างอิงตำแหน่งของวัตถุแล้วไปกำหนด Parameter ใน Tag

5. DraftXL

    - นำเข้าตาราง Excel มาแสดงเป็นตารางใน Revit

6. 3D Sections

    - สร้าง 3D View ในแต่ละชั้นได้อย่างรวดเร็ว โดยแบ่งจากเส้น level หรือ สร้าง View จาก Ceiling Space

7. Element Tagger

    - ใส่ Tag ให้วัตถุโดยสามารถกำหนดระยะห่างของตัว Tag กับวัตถุได้

ลิงค์สำหรับเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม

https://apps.autodesk.com/RVT/en/Detail/Index?id=4708611949947567938&appLang=en&os=Win64

หรือถ้าใครสนใจอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถ ติดต่อมาได้ครับ รับรองใช้เป็นแล้วจะประหยัดเวลาเป็น 1000 ชั่วโมง

Revit เปิดไม่ได้ขึ้น error "An unknown error occurred while accessing .rvt."

ช่วงนี้มีคำถามเกี่ยวกับปัญหาการเปิดไฟล์ของ Revit เข้ามาบ่อยครับ วันนี้เป็นคิวของ

"An unknown error occurred while accessing <file name>.rvt."

ปัญหานี้เป็นเพราะ
- การอนุญาตเข้าถึง Network มีปํญหา (อาจมีการปิด Network)
- ไฟล์พาร์ทยาวเกินไป
- ไฟล์เสีย

การแก้ไข โดยให้ตรวจสอบ
- ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง Networks ที่ให้ User สามารถเข้าถึงโฟล์เดอร์นั้นๆ ได้
- ตรวจสอบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นกับเครื่องอื่นหรือไม่ โดยอาจจะเปลี่ยน User Login เข้า Windows
- ดูที่เก็บไฟล์ Local files จาก File tabOptions. File Locations tab
- Save ไฟล์ Local ออกมาจากไว้ที่เครื่อง แล้วทดสอบเปิดไฟล์ดูว่าสามารถเปิดได้หรือเปล่า (ถ้าเปิดได้แสดงว่าไฟล์ไม่เสีย)
- ตรวจสอบความยาว Path และ File Name มีความยาวรวมกันไม่เกิน 260 ตัวอักษร (รวม เว้นวรรค และ เครื่องหมายสัญลักษณ ต่างๆ)
- เปิด Window Sync On โดยไปที่ Control Panel\All Control Panel Item\Sync Center
- ลบ Local files ที่ไม่ได้ใช้แล้วทิ้งจากโฟล์เดอร์


สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากลิงค์ด้านล่างครับ
https://knowledge.autodesk.com/support/revit-products/troubleshooting/caas/sfdcarticles/sfdcarticles/Revit-Error-An-unknown-error-occurred-while-accessing-xxxx-rvt.html

Revit เปิดโมเดลไม่ได้ขึ้น error "An unrecoverable error has occurred..."

ฝันร้ายของหลายๆ คนคือเปิดไฟล์ Revit แล้วขึ้น error ว่า

"An unrecoverable error has occurred. The program will now be terminated. All of your data has been recently saved, so there is no need to create recovery files."

แล้วไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง เพราะ Audit แล้วก็เปิดไฟล์ไม่ได้อยู่ดี ให้ลองวิธีนี้ดูครับ คือจริงๆแล้วไฟล์ของเราไม่ได้เสียแต่ตัวไฟล์ที่ลิงค์มาเสียต่างหาก ให้ลอง Audit ไฟล์โมเดลที่ลิงค์เข้ามาทุกไฟล์ รวมถึงไฟล์ AutoCAD ด้วยให้ลอง Purge และ Audit แล้วลองเปิดไฟล์ใหม่ดู ผมเคยทำแล้วหายครับหรือถ้าใครมีวิธีอื่นแนะนำเข้ามาได้ครับ

AutoCAD AutoLisp by Lee Mac

วันนี้จะมาแนะนำเวปที่ดีมากๆ เวปนึงครับเป็นของ Lee Mac ชื่อเวป http://lee-mac.com/index.html ซึ่งเป็นเวปที่เค้าเขียน Lisp ได้แจกฟรี แยะมากกกก ที่สำคัญมีที่ดีมากๆ หลายตัวเลย ซึ่งเคยช่วยชีวิตผมมาหลายครั้งแล้ว และถ้าใครเห็นว่ามีประโยชน์สามารถบริจาคสนับสนุนเค้าได้ตามกำลังครับ โดยเค้าได้ทำตัวอย่าง ให้ดูวิธีการใช้งานอย่างละเอียดเลย ที่ผมโหลดเอามาใช้และอยากแนะนำเช่น

Bfind - ใช้เปลี่ยนตัวหนังสือในไฟล์ ที่สามารถทำได้ที่ละหลายๆ ไฟล์ หรือทำทั้งโฟล์ดเดอร์ เลยก็ยังได้โดยไม่ต้องเปิดไฟล์

CountV1-5 - ใช้สำหรับนับจำนวน block สรุปออกมาเป็นตารางให้

X-Path - ใช้เปลี่ยนการลิงค์ xref จาก Full Path เป็น Relative Path

และยังมีอีกเป็นร้อยเลยครับลองเข้าไปดูจะเอามาใช้เพื่อพัฒนาตัวเองหรือจะเอามาใช้งานก็ได้

Revit ปัญหา Link ไฟล์ CAD จาก BIM360 แล้วมองไม่เห็น

ปัญหาอย่างหนึ่งที่เจอในการทำงานบน BIM360 โดยที่เมื่อเราลิงค์ CAD ไฟล์โดยที่ไฟล์อยู่บน BIM360 บางครั้งเมื่อโหลดแล้วมีการอัพเดทไฟล์ CAD หรือเพื่อนร่วมงานปิด Revit แต่มองไม่เห็นลิงค์ไฟล์ ซึ่งอาจเป็นเพราะโปรแกรม BIM360 ยังไม่ได้ทำการส่งข้อมูลไฟล์ลิงค์มาที่เครื่องของเรา 

วิธีแก้ปัญหา โดยการใช้โปรแกรม AutoCAD เปิดไฟล์ CAD ที่ Path BIM360 ที่เก็บไฟล์ในเครื่องของเรา แล้วทำการปิดไฟล์โดยไม่ต้อง Save โดยการเปิดไฟล์จะทำให้สถานะของไฟล์เปลี่ยนเป็น Cached (แค๊ชไฟล์) หรืออีกวิธี ก็แค่คลิ๊กขวาที่ไฟล์ แล้วกด Download ก็ได้เหมือนกัน หลังจากนั้นให้ลองเปิดไฟล์ Revit บน BIM360 อีกที่ทุกอย่างก็น่าจะเป็นปกติครับ

Revit การ Upgrade จากเวอร์ชั่นเก่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่ใน BIM360

บางครั้งเมื่อเราทำงานใน Revit แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ Revit เพื่อให้ใหม่ขึ้นถ้าเป็นเครื่องที่ทำแบบ Stand-alone หรือทำบน Server ของบริษัทคงจะไม่มีปัญหาในการอัพเวอร์ชั่น แต่เมื่อเราทำงานบน BIM360 จะมี่ขั้นตอนที่แตกต่างจากปกติ โดยผู้ที่จะทำได้จะต้องเป็น Admin เท่านั้นถึงจะมีสิทธิทำได้ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ

เข้าโปรเจ็คที่ต้องการเปลี่ยนเวอร์ชั่นโดยไปที่ BIM360 ผ่านเวปเบราเซอร์
1. เลือก Project Admin
2. เลือก Servces
3. เลือก Document Management
4. เลือก เวอร์ชั่นที่จะทำการ Upgrade

5. เลือกว่าได้อ่านข้อมูลในการ Upgrade แล้ว
6. กด Upgrade (โปรดทำความเข้าใจและอ่านหมายเหตุด้านล่างก่อนทำดำเนินการ)

7. หลังจากทำการกด Upgrade จะเข้าสู่ขั้นตอน

8. เมื่อขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์จะมีการแจ้งให้เราทราบ หลังจากนั้นก็สามารถใช้ Revit เวอร์ชั่นใหม่ที่ได้ทำการ upgrade แล้วเปิดไฟล์ทำงานได้เลย

หมายเหตุสำคัญ

1. ก่อนทำการเปลี่ยนเวอร์ชั่นต้องทำการ Publish ก่อน และต้องมั่นใจว่าไม่มีใครเปิดไฟล์ทำงานอยู่
2. ในการเปลี่ยนเวอร์ชั่นจะทำการเปลี่ยน Revit ทุกไฟล์ใน Project เป็นเวอร์ชั่นที่เลือกทุกไฟล์ ทุกโฟล์ดเดิอร์
3. ถ้า Project ใหญ่จะมีการใช้เวลาในการทำนาน ถ้าเป็นไปได้ให้ทำนอกเวลางาน
4. เมื่อเปลี่ยนเวอร์ชั่นแล้วไม่สามารถทำการย้อนกลับเป็นเวอร์ชั้นเก่ากว่าได้ ฉะนั้นต้องแน่ใจว่าจะทำการเปลี่ยนเวอร์ชั่น

สามารถดูขั้นตอนและคำอธิบายเพิ่มเติมได้ลิงค์ด้านล่างนี้
https://www.youtube.com/watch?v=_IUy_TFS51s

Revit BIMLink ตรวจสอบความถูกต้องว่าวัตถุยึดถูกกับระดับ

Ideate BIMLink เป็น Add-In Revit ที่มีประโยชน์มากมาย เช่นการ นำออกข้อมูลเป็น Excel เพื่อแก้ไขแล้วนำกลับเข้ามาในโมเดล ซึ่งช่วงหลังๆ ได้มีการพัฒนาเพื่อให้มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น เช่น สามารถสร้าง Sheet จัด View ในแต่ละ Sheet ให้ตรงกัน และที่ผมชอบมากคือใช้ Audit Model ว่าได้มาตรฐานหรือเปล่า แต่วันนี้จะเสนอวิธีการตรวจสอบว่า Element Family ของเราอยู่ถูกเส้นระดับหรือเปล่า ซึ่ง สามารถทำได้ง่ายๆ  โดยใช้ BIMLink สร้าง Schedule ขึ้นมาเป็นแบบ Multi-Category แล้วเลือกเอาค่าเฉพาะ Host และ Family Type แค่นี้เราก็จะสามารถทราบได้ว่า Family แต่ละตัวอยู่ในตำแหน่งระดับที่ถูกต้องหรือเปล่า

Revit ปัญหาการแสดงผล Pipe Riser

ตอนนี้ผมเจอปัญหาการแสดงผลของ Revit 2019 และ 2020 คือ ในมุมมองแปลน ท่อบางท่อเขียนไปแล้วแต่มันแสดงเป็นกากบาท ไม่แสดงเป็นสัญลักษณ์ท่อ (ดูภาพท่อสีชมพู) ซึ่งไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ทั้งสองท่อมีค่าเหมือนกันทุกประการ เพราะ copy มาโดยที่ท่อไม่ได้เอียง

วิธีแก้ไขคือ ลองใส่ค่าอะไรก็ได้ใน Parameter เช่นใส่ค่าในช่อง Comment กด Apply แล้วลบค่าออก แล้วกด Apply อีกที จะทำให้การแสดงผลกลับมาทุกต้องครับ