วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563

BIM Software and Add-in Works Flow


















BIM เป็นกระบวนการในการทำงานซึ่งเมื่อเรานำมาช่วยในการทำงาน ใครที่ทำงานด้านก่อสร้าง คงพอจะทราบกันดีว่าจะต้องใช้ Software มาใช้ในการทำงานในระบบ BIM จะต้องมีมากกว่า 1 ตัวแน่นอนโดยส่วนใหญ่ที่เห็นๆ กันก็คงจะมี Autodesk Revit หรือ ArchiCAD เพื่อในการขึ้น 3D Model และ Navisworks เพื่อช่วยตรวจสอบ Model รวมไปถึงการ Export เพื่อให้ได้ไฟล์  DWG โดยใช้โปรแกรม Autocad ในการเปิดใช้งาน 

โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำงานเราควรจะต้องใช้เครื่องมือให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำงาน รวมไปถึงให้ได้มาข้อมูลที่ถูกต้อง ก็มีหลายวิธีที่จะได้เครื่องมือต่างๆ มาช่วยทำงานเช่น การเขียน Dynamo , Marco ซึ่งจะต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้มากพอสมควร (อันนี้ใครทำได้ก็คงเป็นเพราะได้พรอันประเสริฐจากพระเจ้า ส่วนผมคงไม่ไหว ทำได้แค่แอบขอยื้มของคนอื่นมาใช้ได้ก็บุญแล้ว) การหา Add-in ที่มีแจกฟรีใน Autodesk App Store หรือถ้าใครรวยหน่อยก็ใช้เงินแก้ปัญหาโดยการซื้อ Add-in ต่างๆ มาช่วยก็ยังได้ รวมไปถึงการใช้คำสั่งของ MS DOS ก็ยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับขั้นตอนการทำงาน BIM ได้ด้วย (อันพูดไปแล้วคงไม่ค่อยมีใครเชื่อ)

ภาพด้านบนเป็นการอธิบายขั้นตอนและ Software ที่ผมนำมาใช้กับหลาย Project ที่ทำงานอยู่โดยขออธิบายตามลำดับหมายเลขดังนี้

1. การใช้ Revit บน BIM360 อันนี้หลายคนคงจะใช้กันอยู่

2. ใช้ RTV Tools สำหรับ Export ไฟล์ออกมาใช้งาน หรือตามรอบการส่งงานตาม BEP กำหนด โดยส่วนใหญ่ผมจะตั้งเวลาโปรแกรมทุกวันตอนกลางคืนให้ Export ไฟล์ PDF และ NWC เพื่อจะได้ข้อมูลอัพเดทมาใช้ในตอนเช้า โดยกำหนด ตำแหน่งเก็บไฟล์ไว้แยกกันเป็นระบบ อันนี้สะดวกมาก

3. ใช้ Remote Desktop Connector ของโปรแกรม Windows ในกรณีที่ต้องการ Export ไฟล์อย่างเร็งด่วนโดยการ Remote ไปใช้หลายๆ เครื่องในการช่วย Export ไฟล์ หรือสำหรับใช้ในการแก้ Clash

4. เมื่อได้ไฟล์ Export จาก RTV Tools ในหัวข้อ 2 แล้วก็ตั้งเวลาให้ MS DOS ให้ Run คำสั่งในการก๊อปปี้้ข้อมูลไปไว้ที่ Folder ที่ทำงานทั้งของ PDF เพื่อให้เอ็นจิเนียร์นำไปใช้และ NWC เพื่อตรวจสอบ Model

5. ใน Working Folder ก็ใช้เก็บไฟล์ PDF โดยทางเอ็นจิเนียร์จะเอาไปตรวจสอบความก้าวหน้าของงานและนำไป Markup เพิ่มโดยใช้โปรแกรม Bluebeam ส่วน Navisworks จะนำไปทำการตรวจสอบ Clash Detection ซึ่งจะถูกอัพเดททุกวันโดยอัตโนมัติ

6. เป็นเครื่องมือต่างๆ ที่ผมใช้งานบ่อยๆ โดยบางอันจะใช้เฉพาะตอนเริ่ม Project ส่วนบางอันจะถูกใช้ตลอดเวลา ตามแต่ละจุดประสงค์ เช่น Rush Forth จะใช้เมื่อต้องการสร้าง Project และสร้าง View, Sheet ใช้ BIM Link ในการนำข้อมูลออกมาเป็น Excel 

โดยสรุปแล้วผมแนะนำให้ลองหาดูว่ามีขั้นตอนใหนในการทำงานที่จะสามารถประหยัดเวลา และการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอาจจะต้องแสดงหาเครื่องมือต่างๆ ซึ่งจะมีทั้ง ฟรีและเสียเงินซื้อมาซึ่งจะต้องคำนวณดูว่าคุ้มกับราคาที่จ่ายไปหรือเปล่า ส่วนตัวผมเองแล้วคิดว่าลำพังการใช้งานเฉพาะโปรแกรม Revit คงจะไม่เพียงพอเสียแล้ว ส่วนใครมีเครื่องมืออะไรดีๆ อยากจะแนะนำก็บอกได้เลยนะครับเพื่อแลกเปลียนความรู้กัน

Revit Addin RTV Tools Pro






เคยแนะนำ Addin ตัวนี้เมื่อนานมาแล้วแต่วันนี้ขออธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดประโยชน์ของ Addin ตัวนี้ครับ
โดย Addin ตัวนี้ใช้ได้ตั้งแต่ Revit เวอร์ชั่น 2017 ถึง 2020 ของ 2021 กำลังจะมาในไม่ช้า ซึ่งตัวโปร ราคา 49$ สำหรับ 1 License ต่อ 1 ปี (ตกราวๆ 1500 - 2000 ถือว่าคุ้มมากแลกกับเวลาที่ได้คืนมา) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากลิงค์นี้เลยครับ https://www.rtvtools.com/rtv-xporter-pro/ โดยประโยชน์ที่จะได้รับคือ

1. สามารถ Export ไฟล์ตระกูลต่างๆ ได้พร้อมๆ กัน เช่นสามารถทำ PDF, DWG และ NWC ได้เลยโดยการเลือกครั้งเดียวและสามารถเก็บการตั้งค่าไว้เพื่อจะนำมาใช้ในภายหลังได้อีกด้วยโดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าใหม่ โดยการเลือก Sheet และ View สามารถใช้ Filter ในการกรองข้อมูลเพื่อเลือกเฉพาะเจาะจงได้ เช่นสามารถเลือก Sheet ที่ขึ้นต้นด้วย EL หรือเลือกชื่อมุมมองที่มีคำว่า Export หรือ NWC ก็สามารถทำได้

ไฟล์ที่ทางสามารถทำการ Export ได้จาก RTV tools






2. จากการตั้งค่าในข้อ 1 เราสามารถนำค่าที่ตั้งไว้แล้วกำหนดเวลาล่วงหน้าเพื่อให้ Addin ทำงานให้เราโดยมันจะเปิดไฟล์ให้เราแล้วทำการ Export ค่าที่ตั้งไว้ (แต่ต้องเปิดเครื่องไว้) เช่นสามารถให้ทำ PDF และ NWC ออกมาตอนหลังเลิกงานแล้วตอนเช้าเราก็นำมาตรวจได้โดยไม่ต้องเสียเวลารอ ซึ่งจากการทดสอบสามารถทำงานได้ดีกับทั้งไฟล์ที่อยู่ในเครื่อง ใน Server และบน BIM360 ก็ได้ แต่ยังไม่เคยลองทำงานกับ ProjectWise

อันนี้เล่าให้ฟัง ผมเคยทำงานโครงขนาดใหญ่มี ประมาณ 20 อาคาร ผมได้ตั้งให้ทำการ Export เป็น PDF และ NWC โดยตั้งให้ RTV เปิดไฟล์และทำการ Export ทุกอาคารโดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาในการเปิดไฟล์และจำนวน Sheet และ View ที่จะต้อง Export โดยครั้งแรกอาจจะต้องลองทำการ Export ดูก่อนเพื่อจับเวลาของอาคารนั้นๆ แล้วค่อยมากำหนดระยะเวลาในการทำ Export ในแต่ะละอาคาร โดยกำหนดให้ Export ทุกวันตอนสี่ทุ่ม พอเช้ามาก็มารวบรวมไฟล์เพื่อให้ทางผู้เกี่ยวข้องนำไปใช้งานได้เลย จะเห็นได้ว่าสามารถประหยัดเวลาได้มากเลยโดยไม่ต้องเสียทรัพยากรคน ที่จะต้องมาทำเอง และเราจะได้ข้อมูลที่อัพเดททุกวันตอนเช้า

3. การใส่ Revision อย่างรวดเร็วมาก และสามารถตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโดยปกติการใส่ Revision ใน Revit จะต้องทำเองทีละแผ่นซึ่งเสียเวลามาก ซึ่งตัว RTV สามารถช่วยให้เราสามารถใส่ Revision เป็นชุดๆ ได้เลย ซึ่งสะดวกมาก และง่ายในการตรวจสอบความถูกต้อง
















4. การตั้งค่าให้ RTV เปิดไฟล์งานล่วงหน้าให้ (ใครที่ทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่คงจะรู้ว่าเวลาเปิดไฟล์จะช้ามากบางทีอาจจะต้องใช้เกือบครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่า ซึ่งจะสะดวกมากถ้าไฟล์ถูกเปิดก่อนเราเริ่มทำงาน)

5. การอัพเกรดไฟล์ Revit เป็นเวอร์ชั่นใหม่ โดยสามารถทำทีละหลายๆไฟล์ได้

ยังประโยชน์มีอีกหลายอย่างแต่ผมยังไม่ได้ใช้ครับ โดยรวมแล้วถ้าใครที่ต้อง Export ไฟล์บ่อยๆ และต้องทำเป็นประจำต้องการได้ข้อมูลที่อัพเดทตลอดเวลา การใช้ RTV น่าจะช่วยคุณได้แยะมากเลยครับ